1. แนะนำตัว
สวัสดีค่ะน้อง ๆ พี่ชื่ออรัชมน พิเชฐวรกุล ชื่อเล่น เตย ปัจจุบันเป็นอาจารย์ และเป็นรองคณบดีฝ่ายวิชาการ ส่วนอีกคนข้าง ๆ คือ พี่เต้ (พรพล เทศทอง) เป็นอาจารย์เช่นเดียวกัน และเป็นรองคณบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษาประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พี่ทั้งสองคนเรียนจบปริญญาตรีและโทที่สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง หลังจากนั้นได้เดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส ณ กรุงปารีสจนจบปริญญาเอกโดยพี่ไปเรียนด้านกฎหมายกิจการโทรคมนาคม มหาวิทยาลัย Université Paris-Saclay
ส่วนพี่เต้ไปเรียนต่อด้านกฎหมายกีฬา มหาวิทยาลัย Université Paris Panthéon-Sorbonne
2. ลักษณะของงานที่ทำ
เมื่อเรียนจบก็ได้กลับมาทำงานเป็นอาจารย์ตามที่ตั้งใจไว้ พี่ทั้งสองคนได้นำความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีจนถึงเรียนจบจากฝรั่งเศสมาถ่ายทอดให้ความรู้แก่นักศึกษาพร้อมทั้งสอดแทรกกระบวนการคิด วิเคราะห์ และสังเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผลเพื่อให้เป็นผู้ใช้กฎหมายที่มีตรรกะทางความคิดตามหลักการที่ถูกต้อง
3. นำความรู้กฎหมายไปปรับใช้ในการทำงานอย่างไรบ้าง
เมื่อมาเป็นอาจารย์แน่นอนว่าได้ใช้ความรู้กฎหมายในการสอนตลอดเวลา แต่เมื่อพี่และพี่เต้จบกฎหมายเฉพาะทางมาทั้งคู่ก็จะสามารถสอนวิชาใหม่ ๆ ที่นักศึกษาอาจจะหาเรียนยากในประเทศได้ด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้นักศึกษาก็จะได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ทางด้านกฎหมายว่าจริง ๆ แล้วมันมีกฎหมายใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเยอะมาก ที่ต่างประเทศสอนกันแบบจริงจัง เมื่อนักศึกษาได้เรียนและรู้สิ่งใหม่ ๆ ก็จะถือว่าเค้าติดอาวุธเพิ่มมากขึ้น มีมุมมองที่กว้างมากขึ้นว่าจริง ๆ แล้วการเป็นนักกฎหมายที่ดีไม่จำเป็นต้องเข้าใจแค่ตัวบทกฎหมาย แต่จำเป็นต้องเข้าใจถึงสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวด้วยเพื่อประกอบการเข้าใจกฎหมายมากขึ้น เช่น เมื่อต้องเรียนวิชากฎหมายโทรคมนาคม นักศึกษาก็จำเป็นต้องรู้หลักเกณฑ์เบื้องต้นทางด้านวิศวโทรคมนาคม และเศรษฐศาสตร์โทรคมนาคม เพื่อใช้ทำความเข้าใจกฎหมายได้มากขึ้นนั่นเอง
4. ฝากข้อคิดและกำลังใจถึงน้อง ๆ สำนักวิชานิติศาสตร์
พี่เข้าใจว่าเส้นทางการเรียนกฎหมายต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการอ่านหนังสือ ซึ่งนักเรียนกฎหมายไม่สามารถหลีกเหลี่ยงได้ พี่มีข้อแนะนำหนึ่งข้อที่ช่วยให้พี่ก้าวเดินทางจนถึงจุดนนี้ได้ คือ ความอดทน หรือจะให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า ใครอึดกว่ากัน ผู้นั้นก็อยู่รอด เพราะพี่คิดว่าจุดเริ่มต้นของการเดินทางในเส้นทางวิชาชีพกฎหมายที่แสนจะยาวไกลนั้น มีองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ความขยัน ความมุ่งมั่น ความเพียรพยายาม เป็นต้น แต่ทั้งหมดนี้น่าจะต้องมีความอดทนให้มากที่สุด เมื่อเวลาท้อจะได้มีแรงสู้ต่อไป และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องมีควบคู่กันก็คือ ทรรศนะคติที่ดีในการใช้ชีวิต เพราะพี่เชื่อว่ามุมมองชีวิตดี จะส่งผลให้สุขภาพจิตดีตามไปด้วย เมื่อเจอสภาพปัญหาต่าง ๆ เราก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างมีสติ
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากเรียนต่อปริญญาเอกทั้งในและต่างประเทศและยังลังเลอยู่ พี่ขอให้คำแนะนำว่าเวลาของน้อง ๆ มีจำกัด ดังนั้นอย่ามัวเสียเวลากับการใช้ชีวิตของคนอื่น อย่ามัวติดอยู่กับกฎเกณฑ์ความเชื่อที่ผู้คนงมงายยึดถือมันเอาไว้ อย่าปล่อยให้เสียงคนอื่นดังกลบเสียงภายในของตัวน้อง ๆ เอง เเละสิ่งที่สำคัญที่สุด...จงกล้าเดินตามที่หัวใจปราถนาและสัญชาติญาน เพราะจริง ๆ แล้วทุกคนล้วนตระหนักอยู่ข้างในลึกๆว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆส่วนสิ่งอื่นนั้นล้วนเเล้วเเต่เป็นเรื่องรองลงไป ดังนั้นถ้ามั่นใจแล้วจริง ๆ ว่าต้องการจะเรียนก็ขอให้เดินหน้า และทำตัวเองให้พร้อมค่ะทั้งคุณสมบัติที่ต้องมี และจิตใจที่เข้มแข็งค่ะ ในการเรียนปริญญาเอกล้วนต้องใช้สิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น สำหรับคนที่อยากเรียนประเทศที่ใช้ภาษาอื่น แต่ตนเองไม่ได้ภาษานั้น ๆ พี่แนะนำว่าอย่าไปกลัวค่ะ ถ้าแน่ใจแล้วจริง ๆ ก็ลุยให้เต็มที่เพราะเราจะไม่กลับมาเสียใจได้ทีหลังว่าถ้าทำมากกว่านี้แล้วก็คงจะดีกว่านี้ ที่พี่พูดแบบนี้เพราะว่าตัวพี่เองก็ไม่ได้ภาษาฝรั่งเศสแม้แต่ตัวเดียวตอนที่เดินทางไปปารีสค่ะ มันก็แค่เหนื่อยมาก ๆ ในตอนแรก แต่มันจะมีวันที่ทุกอย่างลงตัวค่ะ แค่ต้องให้เวลามันนิดหน่อยก็เท่านั้น สุดท้ายแล้วเมื่อเราทำสิ่งที่ตั้งใจไว้สำเร็จก็จงภูมิใจในตัวเอง และใช้สิ่งที่ร่ำเรียนมาก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไปค่ะ
