มาตรการของจีนในการรับมือกับ COVID-19

หมวดหมู่ข่าว: law-more for law

 

มาตรการของจีนในการรับมือกับ COVID-19

สุวิจักขณ์ จันดาพันธ์

 

          การระบาดของโรค COVID 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID319) เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อประมาณปลายเดือนมกราคม 2020 แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าต้นกำเนิดของโรคเกิดขึ้นจากสาเหตุและสถานที่ใด แต่การระบาดของโรคนั้นพบครั้งแรกที่ตลาดขายส่งอาหารทะเลในเมือง   อู่ฮั่น(武汉华南海鲜批发市场)มลฑลหูเป่ย ในช่วงเดือนธันวาคม 2019 จากนั้นในวันที่ 7 มกราคม 2020 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (中国疾病预防控制中) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้โรคนี้มีสาเหตุมาจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยให้ชื่อว่า Severe Acute Respiratory Syndrome Coronavirus 2 (SARS-CoV-2) ซึ่งจากความรุนแรงของโรคที่มีการติดเชื้อและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในวันที่ 27 มกราคม 2020 ทั่วทั้งประเทศจีนไม่ว่าจะเป็นระดับมลฑล ( ) เขตปกครองตนเอง (自治区) และเทศบาลนคร (直辖市) เริ่มมีการบังคับใช้มาตรการจำเป็นเร่งด่วนเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคอย่างจริงจัง

          การรับมือกับโรค COVID-19 ของจีนในปัจจุบันเป็นไปตาม “แผนป้องกันและควบคุมโรค COVID-19 ฉบับที่ 6”(新型冠状病毒肺炎防控方案 (第六版))ซึ่งออกโดย คณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน (中华人民共和国国家卫生健康委员会) โดยมาตรการนี้สอดคล้องกับกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ (中华人民共和国传染病防治法)ที่กำหนดให้รัฐบาลต้องดำเนินการออกมาตรการต่าง ๆ ให้มีผลในทางปฏิบัติเพื่อเป็นการรักษาและป้องกันกับการระบาดของโรค โดยแผนป้องกันและควบคุมโรค COVID-19 ฉบับที่ 6 นี้ให้อำนาจรัฐบาลท้องถิ่นดำเนินการปรับใช้มาตรการตามที่กำหนดแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์ โดยยึดตามสถิติของประชากรที่มีการติดเชื้อหรือต้องสงสัยว่ามีการติดเชื้อ และสถานการณ์การระบาดของโรคเป็นสำคัญ

          เช่น มลฑลเจ้อเจียง(浙江省)ได้จัดทำแนวทางการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ได้แก่ เขตชุมชนที่อยู่อาศัย ภาคธุรกิจในพื้นที่ โรงเรียน และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ มีการสั่งปิดเมืองราวหนึ่งเดือน มีการตรวจสอบคัดกรองคนเข้า-ออกอย่างเคร่งครัด พลเมืองแต่ละคนจะต้องทำหน้าที่สอดส่องเพื่อนบ้านว่ามีอาการป่วยตามคู่มือที่แจกจ่ายหรือไม่ มีการจัดให้มีการฆ่าเชื้อทั่วเมือง ห้ามผู้คนออกจากบ้าน โดยให้มีการจับจ่ายใช้สอยและซื้ออาหารผ่านทางระบบออนไลน์แทน (เช่น แอพพลิเคชั่น 饿了么,淘宝,京东) มีการสำรองโรงพยาบาล สถานพยาบาล ตลอดจนสถานที่กักตัวผู้ติดเชื้อ เช่น โรงแรม เป็นต้น

          นอกจากนี้ยังได้มีการนำแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า "One map, One QR code, and One index" มาใช้เพื่อบันทึกประวัติและติดตามพลเมืองของเมืองและผู้ที่เดินทางเข้ามายังเมือง โดยในแอพพลิเคชั่นนี้ ประชาชนแต่ละคนจะมีประวัติและความน่าเชื่อถือของตนเอง กล่าวคือ ถ้าใครได้รับการบันทึกเป็นสีเขียว ผู้นั้นสามารถเดินทางได้อิสระเสรีทั่วเมือง หากใครได้รับสีเหลืองจะต้องทำการกักตัวเอง ในบ้านเป็นระยะเวลา 7 วัน หากใครได้รับสีแดงจะต้องทำการกักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน ซึ่งเมื่อระยะเวลาของการกักตัวเองดังกล่าวสิ้นสุดลงแล้วหากยังคงมีสุขภาพแข็งแรงระบบจะอัพเดทข้อมูลให้ใหม่กลายเป็นสีเขียวในที่สุด ในระบบการบันทึกข้อมูลดังกล่าวนี้พลเมืองแต่ละคนมีหน้าที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอุณภูมิของร่างกายตนเองที่วัดได้ลงในระบบด้วย โดยกำหนดให้ต้องมีการบันทึกข้อมูล 2 ครั้งต่อวัน ซึ่งฐานข้อมูลเหล่านี้จะได้รับการสอดส่องและติดตามจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน

          สำหรับมาตรการในระดับระหว่างประเทศนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดข้ามพรมแดน (cross-border) กระทรางการต่างประเทศจีนล่าสุดได้มีการระงับการเดินทางเข้าประเทศจีนของชาวต่างชาติที่ถือ visa หรือ resident permit เป็นการชั่วคราว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2020 เป็นต้นมาจนกว่าสถานการณ์การระบาดทั่วโลกจะคลี่คลาย

 

อ้างอิง

吴息凤 叶元庆新型冠状病毒肺炎疫情防控下的公共卫生思考. [4 May 2020] online available from : weekly.chinacdc.cn//fileCCDCW/journal/article/ccdcw/2020/14/PDF/[中文]Perspectives-Wu.pdf

Ministry of Foreign Affairs of the People's Republic of ChinaNational Immigration Administration Announcement on the Temporary Suspension of Entry by Foreign Nationals Holding Valid Chinese Visas or Residence Permits [6 April 2020]. Online available from : www.fmprc.gov.cn/mfa_eng/wjbxw/t1761867.shtml

中华人民共和国国家卫生健康委员会。 新型冠状病毒肺炎防控方案 (第六版[4 May 2020] online available from : http://www.nhc.gov.cn/jkj/s3577/202003/4856d5b0458141fa9f376853224d41d7.shtml

《中华人民共和国传染病防治法》已由中华人民共和国第十届全国人民代表大会常务委员会第十一次会议于2004年8月28日修订通过,现将修订后的《中华人民共和国传染病防治法》公布,自2004年12月1日起施行

  • 1817 ครั้ง